56.การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยสุโขทัย
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยสุโขทัย
การสร้างสรรค์ผลงานด้านภูมิปัญญาในสมัยสุโขทัยมีตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้
1. การใช้หลักธรรมและคติความเชื่อทางพุทธศาสนาควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคม
การ
ปลูกฝังนิสัยของคนไทยในสมัยสุโขทัยให้มีศีลธรรมเพื่อความสงบสุขของสังคมส่วน
รวมอาศัยประโยชน์จากการประยุกต์หลักคำสอนในพุทธศาสนา เช่น
การนำเรื่องราวในหนังสือไตรภูมิพระร่วงซึ่งเป็นวรรณกรรมปรัชญาชิ้นแรกของไทย
ที่พระราชนิพนธ์โดยพระมหาธรรมราชาที่ 1
หรือพระยาลิไทมาสอนจริยธรรมให้คนทำดีและเกรงกลัวต่อบาป
2.
การประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นมาใช้เป็นแบบฉบับของตนเอง
อักษรไทยที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชในปีพ.ศ. 1826 ที่เรียกว่า
“ลายสือไทย”
เป็นภูมิปัญญาการเขียนอักษรไทยเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งดัดแปลงมาจาก
อักษรขอมหวัด อักษรหราหมีและอักษรคฤนห์
นอกจากนี้พ่อขุนรามคำแหงมหาราชยังได้ใช้ลายสือไทยบันทึกเรื่องราวพระราช
ประวัติและพระราชกรณียกิจของพระองค์ ตลอดจนการเมืองการปกครอง
สภาพบ้านเมืองและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้นในศิลาจารึกหลักที่ 1
อีกด้วย
3.
การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านประติมากรรมและสถาปัตยกรรม
ในสมัยนี้เริ่มมีการนำศิลาแลงมาสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ
เช่นที่พบเห็นในกำแพงเมืองชั้นในของเมืองศรีสัชนาลัย
นอก
จากนี้ยังค้นพบการผสมตะกั่วลงไปในสำริดเพื่อทำให้โลหะหลอมได้ง่ายขึ้น
และทำให้วัตถุที่หล่อมีคุณภาพเพียงพอสำหรับทำภาชนะ
เครื่องประดับและเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีรูปร่างซับซ้อนได้
ยกเว้นประติมากรรมพระพุทธรูปสำริด
ซึ่งไม่นิยมผสมตะกั่วลงไปเพราะต้องการสร้างให้แข็งแกร่งทนทาน
4.
การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
ชาวสุโขทัยได้ใช้ภูมิปัญญาในการแก้ไขข้อจำกัดทางธรรมชาติและสภาพภูมิประเทศ
ด้วยการสร้างระบบชลประทาน
โดยมีการชักน้ำจากที่สูงทางด้านตะวันตกของสุโขทัยด้วยการสร้างแนวคันดิน
เพื่อทำหน้าที่บังคับทิศทางของน้ำให้ไหลจากหุบเขามาสู่คูเมืองและสระน้ำใน
เมือง แนวคันดินสำหรับเบี่ยงเบนทิศทางของน้ำนี้เรียกว่า “ทำนบพระร่วง”
หรือที่นักวิชาการหลายท่านเรียกชื่อว่า “สรีดภงส์”
ตาม
ชื่อที่ปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ 1 นอกจากนี้ยังมีการสร้าง “ตระพัง”
หรือสระสำหรับเก็บน้ำ
น้ำที่ถูกชักไปตามคลองส่งน้ำและลำเลียงไปสู่กำแพงเมืองเก่าจะไหลเข้าสู่สระ
ตระพังเงินสระตระพังทองเพื่อใช้สอยในเมืองและพระราชวังในสมัยสุโขทัย
5.
การเคลือบเครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัย
ในสมัยสุโขทัยมีการปั้นภาชนะด้วยดินเหนียวหรือดินขาว
ก่อนนำไปเผาในเตาอุณหภูมิสูงและเคลือบให้สวยงาม ซึ่งเรียกว่า
“เครื่องสังคโลก”
สี
ของเครื่องเคลือบมักเป็นสีเขียวไข่กามีสีน้ำตาลบ้างประปราย
หลักฐานเตาเผาที่ถูกค้นพบเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าในสมัยสุโขทัยได้มีการผลิต
เครื่องปั้นดินเผาเป็นอุตสาหกรรมเพื่อประโยชน์ใช้สอย
และเพื่อค้าขายในชุมชนและหัวเมืองใกล้เคียงด้วย
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา
การสร้างสรรค์ผลงานด้านภูมิปัญญา ในสมัยอยุธยา มีตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้
1.
การสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นศูนย์รวมอำนาจ
การที่อยุธยาติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ภูมิปัญญา
ของชนชาติอื่น และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนในสมัยนั้น
อยุธยาได้นำรูปแบบการปกครองแบบเทวราชาที่เชื่อว่ากษัตริย์คือสมมุติเทพหรือ
เทพเจ้าจุติลงมาปกครองประชาชนมาจากเขมรซึ่งรับต่อมาจากอินเดีย
การปกครองแบบนี้จะให้ความสำคัญและอำนาจในการปกครองบ้านเมืองกับกษัตริย์
อย่างมาก
2.
การแต่งแบบเรียนสำหรับคนไทย
พระโหราธิบดีในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแต่งหนังสือจินดามณีให้
ชาวอยุธยาใช้ในการศึกษาภาษาไทยเพื่อให้อ่านออกเขียนได้
จินดามณีถือเป็นหนังสือแบบเรียนสำหรับคนไทยเล่มแรกในประวัติศาสตร์
3.
การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย
บรรดาหมอหลวงในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ร่วมกันรวบรวมตำรับยาต่างๆ
ทั้งไทยและเทศขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติการแพทย์ไทยซึ่งเรียกว่า
“ตำราพระโอสถพระนารายณ์” ซึ่งตำราเหล่านี้ยังตกทอดมาถึงทุกวันนี้
4.
ความเฟื่องฟูทางศิลปกรรมแขนงต่างๆ
ในสมัยอยุธยามีการสร้างสรรค์งานศิลปะในหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม
จิตรกรรม ประติมากรรมหรือประณีตศิลป์ ตัวอย่างศิลปะยุคนี้ ได้แก่
พระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง จิตรกรรมฝาผนังโบสถ์และวิหาร งานเครื่องไม้จำหลัก
งานปูนปั้น การทำลายรดน้ำ งานประดับมุก
รวมไปถึงงานเขียนลวดลายเครื่องเบญจรงค์
การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยธนบุรี
สมัย
ธนบุรีเป็นช่วงเวลาสั้นเพียง 15 ปีเท่านั้น
ศิลปกรรมต่างๆที่สร้างขึ้นคงเป็นไปตามแบบอย่างของอยุธยา
จึงผนวกรวมเข้าไว้ในศิลปวิทยาการสมัยอยุธยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น