1 ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา
1 ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยา
ภูมิปัญญา
ตรงกับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Wisdom หมายถึง ความรู้ ความสามารถ
ทักษะความเชื่อ
และศักยภาพในการแก้ปัญหาของมนุษย์ที่สืบทอดกันมาจากอดีตถึงปัจจุบันอย่างไม่
ขาดสายและเชื่อมโยงกันทั้งระบบทุกสาขา
ภูมิปัญญา หมายถึง ความรู้ ทักษะ ความเชื่อ และพฤติกรรมของคนไทย โดยแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน
คนกับธรรมชาติ การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของบุคคล ชุมชนและสังคม ตลอดจนพื้นฐานความรู้เรื่องต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
ภูมิปัญญาไทย
หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทักษะและเทคนิคการตัดสินใจ ผลิตผลงานของบุคคล
อันเกิดจากการสะสมองค์ความรู้ทุกด้านที่ผ่านกระบวนการสืบทอด พัฒนาปรับปรุง
และเลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดีสามารถแก้ไขปัญหา
และพัฒนาวิถีชีวิตของคนไทยได้อย่างเหมาะสมกับยุคสมัย
ภูมิปัญญาด้านศาสนาและความเชื่อ
พระพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูมีบทบาทต่อการวางรากฐานระบบการเมืองบ้านเมืองเป็นปึกแผ่นคติความเชื่อนี้ได้หล่อหลอมสังคมอยุธยาให้เป็น อันหนึ่งอันเดียวกัน
เกิด
จากความเหมาะสม
ทางสภาพภูมิศาสตร์และความรู้ที่สะสมมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษทำให้อยุธยาเป็น
แหล่งเพาะปลูก
โดยเฉพาะการปลูกข้าวซึ่งการปลูกข้าวถือเป็นภูมิปัญญาที่สำคัญของคนอยุธยาที่
รู้จักคัดเลือก พันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ ที่น้ำท่วมถึง
คือข้าวพันธุ์พิเศษนอกจากนี้ชาวอยุธยารู้จักปลูกต้นไม้ผลไม้ในบริเวณที่เป็น
คันดินธรรมชาติ (Natural Levee) ที่ขนานไปกับแม่น้ำลำคลอง
ผลไม้เหล่านี้ได้รับปุ๋ยธรรมชาติทำให้มีรสชาติอร่อย
พระ
พุทธศาสนาได้หยั่งรากลึกอยู่ในสังคมอยุธยา
ผู้มีความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาย่อมเชื่อว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ทำ
ให้พ้นทุกข์เนื่องจากมนุษย์ต้องเวียนว่ายตายเกิดอันเกิดจากกฎ
แห่งกรรมและเรื่องนรก สวรรค์
นอกจากนี้ยังเชื่อในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ว่าทุกสิ่งคืออนิจจังภูมิปัญญา
จาก
ความเชื่อนี้ทำให้ชาวอยุธยาสามารถ
เผชิญกับปัญหาความทุกข์ยากต่างๆในชีวิตได้ด้วยความอดทน
นอกจากนี้การที่สังคมอยุธยาเป็นสังคมนานาชาติที่มีคนต่างชาติต่างศาสนาเข้า
มาตั้งถิ่นฐาน
โดยพระมหากษัตริย์อยุธยาทรงอนุญาตให้ปฏิบัติพิธีกรรมและเผยแผ่ศาสนาได้โดย
เสรี
ความ
เป็นสังคมนานาชาติเกิดจากความเข้าใจและเห็นคุณค่าขันติธรรมในเรื่องศาสนา
ภูมิปัญญาด้านศาสนาทำให้คนอยุธยาหลักในการดำเนินชีวิต
เพื่อความสุขขิงตนเองและการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคม
ภูมิปัญญาในสมัยอยุธยาสามารถประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน คือ
การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการนำเทคโนโลยีบางอย่างที่เหมาะสมมา
ปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพและความอดทนเข้าใจผู้อื่นที่มีเชื้อ
ชาติ ศาสนาหรือมีความคิดแตกต่างกับตนเอง โดยมุ่งทำให้สังคมมีความสงบสุข
ภูมิปัญญาด้านการประกอบอาชีพ
อยุธยา
เป็นอาณาจักรที่มีความรุ่งเรือง
เศรษฐกิจของอยุธยามีทั้งที่ทำการเกษตรและการค้าภายใน
ต่อมาจึงพัฒนาเศรษฐกิจเป็นการค้ากับนานาชาติ
ภูมิปัญญาในด้านเกษตรกรรมชาวสวนผลไม้อยุธยา ได้ปรับปรุงพันธุ์ผลไม้
จนทำให้ผลไม้ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันด้วยภูมิปัญญา
ดัง
นี้อยุธยาจึงมีปริมาณอาหาร พอเพียงกับความต้องการ ของพลเมือง
ทำให้สามารถพึ่งตนเองได้ เพราะอาหารหลัก คือ ข้าวสามารถปลูกเองได้
สำหรับพืชผักและกุ้ง หอย ปู ปลา หาได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป
สภาพ
ภูมิประเทศของอยุธยามีคูคลองเป็นจำนวนมาก
ชาวอยุธยาใช้ประโยชน์จากคูคลองที่ปรียบเสมือนเป็นถนนให้เป็นเส้นทางคมนาคม
ที่สำคัญในสมัยอยุธยาตอนต้นได้มีการคมนาคมการขุดคลองลัด
เพื่อย่นระยะทางจากปากแม่น้ำ เช่น คลองลัดบางกอกใหญ่
เพื่อความสะดวกในการคมนาคมขนส่งตั้งแต่ยุคกลาง เป็นต้นมา
อยุธยาส่งข้าวเป็นสินค้าหลักไปขายยังต่างแดนเช่น ที่เมืองจีน
นอก
จากนี้ความเหมาะสมของที่ตั้งอยุธยาไม่ห่างจากทะเลมากนักและมีสินค้าหลากหลาย
ชนิด
ทำให้พ่อค้าต่างชาติเดินทางเข้ามาติดต่อค้าขายกับอยุธยาทำให้อยุธยากลายเป็น
เมืองท่านานาชาติโดยเฉพาะในพุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓
พระ
มหากษัตริย์อยุธยาโปรดคัดสรรชาวต่างชาติให้เข้ารับราชการ
โดยเฉพาะหน่วยงานทางทหารและการค้าในด้านการค้าชาวต่างชาติ
เหล่านี้มีความชำนาญทั้งด้านการค้าและการเดินเรือ
มีความรู้ด้านภาษาและเข้าใจวัฒนธรรมของชาติที่อยุธยาติดต่อค้าขายด้วยการรับ
ชาวต่างชาติเข้ารับราชการ แสดงถึงภูมิปัญญาของชาวอยุธยาที่รู้จักเลือก
ใช้คนที่มีความชำนาญให้เป็นผู้รับผิดชอบงานต่างๆอยุธยาจึงสามารถขนส่งสินค้า
บรรทุกสำเภาไปขายยังเมืองท่าดินแดนต่างๆได้โดยสะดวก
สำเภา
อยุธยายังแสดงให้เห็นภูมิปัญญาไทย
กล่าวคือพระมหากษัตริย์โปรดให้ต่อสำเภาโดยช่างชาวจีน เป็นเรือสำเภาประเภท ๒
เสา คล้ายกับสำเภาจีนซึ่งแล่นอยู่ตามทะเลจีนใต้
ใบเรือทั้งสองทำด้วยไม้ไผ่สานซึ่งหาได้ง่ายและมีน้ำหนักเบา
ส่วน
ใบเรือด้านบนสุดและด้านหัวเรือใช้ผ้าฝ้ายซึ่งเป็นวัดุที่ชาวอยุธยาทอใช้ใน
ครัวเรือนแต่วิธีการเป็นวิธีแบบชาวตะวันตก
ที่ช่วยให้สำเภาเร็วขึ้นสำหรับหางเสือของสำเภาเป็นไม้เนื้อแข็งคล้ายกับ
สำเภาจีน (ชนิดที่เดินทางไกล)
แต่
ทว่าหางเสือของสำเภาอยุธยา ได้เจาะรูขนาดใหญ่ไว้ ๓ รู แล้วสอดเหล็กกล้า
ยึดติดกับลำเรือทำให้บังคับเรือได้ดีและมีความคงทน
นอกจากนี้บริเวณกาบเรือใช้น้ำมันทาไม้และใช้ยางไม้หรือสีทา
ในส่วนของเรือที่จมน้ำโดยผสมปูนขาวเพื่อป้องกันเนื้อไม้และตัวเพลี้ยเกาะ
ซึ่ง
ทำให้เรือผุ
สำเภาอยุธยานับเป็นภูมิปัญญาของคนอยุธยาที่ใช้เทคโนโลยีผสมกันระหว่างสำเภา
จีนกับเรือแกลิออทของฮอลันดาเพื่อให้เรือวิ่งได้เร็วและทนทาน
ภูมิปัญญาของชาวอยุธยาในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการค้าเป็นปัจจัยสำคัญ
ที่ทำให้เศรษฐกิจ ของอยุธยามั่งคั่งรุ่งเรือง
ภูมิปัญญาด้านการตั้งถิ่นฐาน
การ
ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ตั้งแต่สมัยอดีตมีความสัมพันธ์กับปัจจัยทางภูมิศาสตร์
กล่าวคือ
ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้แหล่งอาหารและในที่ซึ่งมีความปลอดภัยสำหรับอยุธยาตั้ง
อยู่ในที่ราบลุ่มดินดอน
สามเหลี่ยมเจ้าพระยาตอนล่างสภาพโดยทั่วไปของพื้นที่อุดมสมบูรณ์
สามารถ
ผลิตอาหารได้เพียงพอกับความต้องการ ของชุมชน
ขณะเดียวกันที่ตั้งของอยุธยายังตั้งอยู่ในบริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระยาลพบุรี
ป่าสักไหลมาบรรจบกัน
ทำให้ปลอดภัยและสามารถใช้แม่น้ำลำคลองเหล่านี้เป็นเส้นทางคม
นาคมติดต่อค้าขายและเข้าถึงแหล่งทรัพยากร
ที่มีอยู่มากมายในหัวเมืองอื่นๆทางหัวเมืองเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือตลอด
จนอาณาจักรที่อยู่ลึกเข้าไป เช่นอาณาจักรล้านนา ล้านช้าง
และพุกามได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ที่ตั้งของอยุธยาอยู่ห่างจากปากน้ำเจ้าพระยาประมาณ ๒๐๐ กิโลเมตร
ใช้
เวลาประมาณ ๓ วัน เพื่อล่องเรือจากราชธานีไปจนถึงปากน้ำ
ดังนั้นเมื่อข้าศึกยกทัพมาทะเลจึงมีเวลาเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันเมือง
การที่อยุธยา
ที่มีที่ตั้งซึ่งมีสภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้อยุธยามีความปลอดภัยและมีอาหาร
อุดมสมบูรณ์
อย่าง
ไรก็ตามสภาพภูมิประเทศของอยุธยา ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก
จะมีน้ำท่วมขังกินเวลานานทำให้เป็นอุปสรรคต่อการตั้งถิ่นฐานแต่ชาวอยุธยาและ
ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้ใช้ภูมิปัญญาในการแก้
ปัญหา โดยการ ปลูกเรือนใต้ถุนสูงพ้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม เมื่อน้ำ
ลดพื้นดินแห้งดีแล้วสามารถใช้ประโยชนจากบริเวณใต้ถุนเรือน ซึ่งเป็นที่โล่ง
ทำกิจกรรมภายในครัวเรือน เช่น จักสาน ทอผ้า เลี้ยงลูก
หรือใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์จับปลาและเครื่องมือมาทำนา
บ้านเรือนของชาวอยุธยามี ๒ ลักษณะคือ
๑.เรือน
ชั่วคราวหรือเรือนเครื่องผูก
เป็นเรือนของชาวบ้านโดยทั่วไปสร้างด้วยไม้ไผ่หรือใบจากซึ่งเป็นวัสดุที่หา
ได้ง่ายในท้องถิ่นและสามารถรวบรวมกำลังคนในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านปลูกเรือน
ได้ไม่ยาก
๒.เรือน
ถาวรหรือเรือนเครื่องสับ เป็นเรือนของผู้มีฐานะ เช่น ขุนนางหรือเจ้านาย
ซึ่งเป็นเรือนที่สร้างอย่างประณีตด้วยไม้เนื้อแข็งหนาแน่นและทนทานไม้เหล่า
นี้ได้จากป่าในหัวเมืองเหนือที่ใช้วิธีล่องลงมาตามลำน้ำเจ้าพระยานอกจาก
เรือนยกพื้นสูงแล้วชาวอยุธยายังอาศัยอยู่ในเรือนอีกประเภทหนึ่งที่ไม่มีเสา
พื้นเรือนติดน้ำแต่ลอยได้ คือเรือนแพ ที่สะดวกสำหรับการ เคลื่อนย้าย
เรือนแพนี้ยังทำหน้าที่เป็นร้านค้าด้วย
ดัง
นั้นที่กรุงศรีอยุธยาจึงมีเรือนแพตั้งเรียงรายตามแม่น้ำ ลำคลอง
ชาวอยุธยานอกจากจะปรับตนให้เข้ากับภูมิประเทศที่ประกอบด้วยแม่น้ำลำคลองแล้ว
ยัง
ใช้ภูมิปัญญาดัดแปลงแม่น้ำลำคลอง เพื่อใช้ป้องกันข้าศึกได้ด้วยตัวอย่างเช่น
ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเกิดสงครามระหว่างไทยกับพม่า
จึงมีการเตรียมการโดยขยายขุดลอกคลองคูขื่อหน้า
เพื่อให้อยู่ในสภาพที่รับศึกได้
หรือการที่มหานาควัดท่าทราย ระดมชาวบ้านขุดคลองมหานาคเป็นคูป้องกัน พระนครชั้นนอกอีกชั้นหนึ่งเมื่อ พ.ศ.๒๐๘๖ เพื่อป้องกันศึกพม่า
นอก
จากที่กล่าวมาแล้ว สภาพภูมิประเทศที่เป็นมาน้ำลำคลองจำนวนมาก
ทำให้ชาวอยุธยามีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้เรือในการ
คมนาคมเรือสำหรับชาวบ้านเป็นเรือที่ต่ออย่างง่ายๆ เช่นเรือขุดและเรือแจว
แต่
คนในสมัยอยุธยามีภูมิปัญญาในการขุดเรือยาว
ที่พระมหากษัตริย์อยุธยาใช้เป็นเรือรบในการขนกำลังคนไปได้เป็นจำนวนมาก
พระมหากษัตริย์เสด็จพยุหยาตรา
เพื่อเสด็จไปทำสงครามและได้พัฒนาเป็นกองทัพเรือ
ใน
เวลาที่บ้านเมืองเป็นปกติพระมหากษัตริย์ทรงใช้เรือเหล่านี้
เสด็จพระราชดำเนินในพิธีต่างๆ เช่นพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน
โดยจัดขบวนเรือรบซึ่งเท่ากับเป็นการซ้อมรบโดยปริยาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น